พ.ร.บ. ศาลเยาวชนและครอบครัว (ฉบับที่ 6)
ชื่อทางการ ร่างพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว
14 ก.ค. 64
ร่าง พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2534 มีการตรา พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 และต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมหลักการสำคัญ เช่น การยึดประโยชน์สูงสุดของเด็ก การปฏิบัติต่อเด็กด้วยมนุษยธรรมและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของเด็กและเยาวชน การตรวจสอบการจับกุม การใช้มาตรการแทนการดำเนินคดีอาญา มาตรการแทนการพิพากษาคดีและการพิจารณาพิพากาคดีคุ้มครองสวัสดิภาพของบุคคลในครอบครัวที่ถูกกระทำรุนแรงในครอบ โดยการตรา พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ศาลเยาวชนและครอบครัวเป็นศาลที่มีวิธีพิจารณาคดีพิเศษแตกต่างจากศาลยุติธรรมทั่วไป กล่าวคือ เป็นศาลชำนัญพิเศษ โดยคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลคือ คดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนกระทำความผิด และในการพิจารณาพิพากษาคดี จะมีผู้พิพากษา 2 ประเภท คือ ผู้พิพากษาโดยอาชีพ (ข้าราชการตุลาการ) และผู้พิพากษาสมทบ (ผู้พิพากษาสมทบคือ บุคคลซึ่งได้รับแต่งตั้งตามกฎหมายจัดตั้งศาลชำนัญพิเศษ ให้เป็นองค์คณะร่วมกับผู้พิพากษาซึ่งเป็นข้าราชการตุลาการในการพิจารณาคดี) ซึ่งองค์คณะในการพิจารณาคดี ประกอบด้วยผู้พิพากษาไม่น้อยกว่า 2 คน และผู้พิพากษาสมทบอีก 2 คน ซึ่งผู้พิพากษาสมทบอย่างน้อยคนหนึ่งต้องเป็นสตรี ร่างฉบับนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติม พรบ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพ้นจากตำแหน่งของผู้พิพากษาสมทบในศาลเยาวชนและครอบตรัวให้สอดคล้องกับมาตรา 190 รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ.2560
เส้นทางกฎหมาย
-
23 พ.ค. 65
ออกเป็นกฎหมาย - สว.พิจารณา วาระ 3
พิจารณาให้ความเห็นชอบ
- สว.พิจารณา วาระ 2
อยู่ระหว่างการพิจารณา
- สว.พิจารณา วาระ 1
รับร่าง พ.ร.บ. ไว้พิจารณา
-
22 ธ.ค. 64
สส.พิจารณา วาระ 2ขั้นกรรมาธิการ และ สส.ลงมติรับรายมาตรา
-
22 ธ.ค. 64
สส.พิจารณา วาระ 3ขั้นลงมติเห็นชอบ
-
10 พ.ย. 64
สส.พิจารณา วาระ 1รับหลักการและตั้งกรรมาธิการ
เว็บไซต์นี้สร้างโดย กลุ่มเทคโนโลยีภาคประชาชน (Civic Technology) ที่ขับเคลื่อนสังคมผ่านเทคโนโลยีและข้อมูลเปิด (Open Data) ภารกิจของเราคือการทำให้ประชาธิปไตยไทยเปิดเผย โปรงใส และมีส่วนรวมได้ เราจึงตั้งใจพัฒนาโปรเจกต์ Parliament Watch ให้เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดช่องทางให้ประชาชนและสื่อมวลชนสามารถจับตาดูการทำงานของ ‘รัฐสภา’ โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทุนในการดำเนินงานจาก National Endowment for Democracy (NED) Open Society Foundations และ กองทุนรวมธรรมาภิบาลไทย (CG Fund) ซึ่งนำมาใช้เป็นต้นทุนในการรวมรวมข้อมูล ออกแบบ พัฒนาเว็บไซต์ ประสานงาน บริหารจัดการ ตลอดจนการจัด Meetup เพื่อดำเนินโครงการ