โดยที่การดำเนินการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ให้เป็นระบบ และสอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การประกอบพาณิชยกรรม อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงการค้าและโลจิสติกส์ในภูมิภาค ตลอดจนวิถีชีวิตของชุมชนในพื้นที่ดังกล่าว แต่ด้วยกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันไม่เอื้อต่อการพัฒนาพื้นที่ตามแนวทางดังกล่าว ขาดการวางแผนการบริหารพื้นที่แบบองค์รวม การพัฒนาด้านต่างๆ จึงเป็นไปอย่างแยกส่วนและกระจัดกระจาย ผลของการขาดการบูรณาการดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถพัฒนาพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ได้อย่างเต็มศักยภาพ ทั้งการจัดทำระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของหน่วยงานของรัฐต่างยังขาดความต่อเนื่องและเชื่อมโยงกัน กรณีจึงสมควรกำหนดให้เป็นระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้เพื่อที่จะได้มีการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ชัดเจนแน่นอน โดยเหมาะสมกับสภาพและศักยภาพของพื้นที่ สอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีการบูรณาการการจัดทำโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคให้ต่อเนื่องและเชื่อมโยงกันทั้งในและนอกระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ โดยการยกระดับการพัฒนาเมืองให้มีความทันสมัยระดับนานาชาติที่เหมาะสมต่อการอยู่อาศัยและการประกอบกิจการ มีการให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร รวมทั้ง ให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกอบกิจการในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้